แนวคิดเกี่ยวกับสถิติสำหรับทฤษฏีการวัด
โดยทั่วไปแล้วงานวิจัยทางด้านสังคมศาสตร์
และด้านพฤติกรรมศาสตร์จะมีวัตถุประสงค์ในการใช้สถิติอยู่ 2 วัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อใช้ในการบรรยาย (Descriptive) และ 2) เพื่อสรุปอ้างอิง (Generalizations) โดยทั้งสองส่วนนี้มีส่วนคล้ายกันคือ จะมีการสรุปจากข้อมูลภายใต้เงื่อนไขหรือสถานการณ์นั้น
ๆ ใช้เพื่อการบรรยายจะเป็นการสรุปคุณลักษณะเฉพาะของสิ่งที่นักวิจัยต้องการศึกษา ส่วนการสรุปอ้างอิงนั้นจะเป็นการสรุปทิศทางหรือรูปทรงของการกระจายตัวของชุดข้อมูลที่ได้จากกลุ่มตัวอย่างที่ผ่านการสุ่มโดยอาศัยความน่าจะเป็นเพื่ออ้างอิงหรือสรุปผลเทียบเคียงไปยังกลุ่มประชากร ลักษณะของการจัยจะต้องมีความตรง (Vaildity) ทั้งภายในและภายนอก (Internal and External Vaildity) ซึ่งในปัจจุบันจะพบว่างานวิจัยจะมีลักษณะความตรงได้ดังนี้ ความตรงภายในและภายนอกสูง,
ความตรงภายในและความตรงภายนอกต่ำ ,ความตรงภายในสูงแต่ความตรงภายนอกต่ำ
,และความตรงภายในต่ำและความตรงภายนอกสูง
เพื่อขยายความเข้าใจเกี่ยวกับความตรงภายในและความตรงภายนอก จึงได้สรุปความหมายของสถานการณ์ทั้ง 4 ดังนี้
1.
งานวิจัยที่มีลักษณะความตรงภายในและภายนอกสูง แยกพิจารณาได้ดังนี้ ความตรงภายในสูง
หมายถึงผลของการวิจัย
ที่เป็นผลจากตัวกระทำจริงโดยไม่มีสิ่งเจือป่นจนขาดความน่าเชื่อถือ
หมายความว่าผลของตัวแปรตามที่เป็นผลจากตัวแปรอิสระ ผ่านกระบวนการควบคุมตัวแปรแทรกซ้อนและตัวแปรสอดแทรก ส่วนความตรงภายนอกสูง หมายถึง
ผลการวิจัยที่มีลักษณะอ้างอิงไปยังสถานการณ์อื่นภายใต้เงื่อนไขที่คล้ายคลึงกัน
หากทำได้แล้วจะทำให้งานวิจัยมีความน่าเชื่อถือ
2. งานวิจัยที่มีลักษณะความตรงภายในและภายนอกต่ำ
แยกพิจารณาได้ดังนี้ ความตรงภายในต่ำ หมายถึงผลของการวิจัย
ที่เป็นผลจากตัวกระทำจริงโดยมีสิ่งเจือป่นจนขาดความน่าเชื่อถือ
มีหมายความตรงกันข้ามกับความตรงภายในสูง
ส่วนความตรงภายนอกต่ำ หมายถึง ผลการวิจัยที่มีลักษณะเทียบเคียงผลการวิจัยไปได้ต่ำ
อาจเป็นผลมาการความตรงภายในที่ต่ำทำให้ผลการวิจัยไม่สามารถสรุปไปยังกลุ่มประชากรอื่นได้
3) งานวิจัยที่มีลักษณะความตรงภายในสูงแต่ความตรงภายนอกต่ำ
หมายถึง งานวิจัยที่มีกระบวนการทดลองที่ออกแบบการควบคุมตามความหมายในข้อ 1. แต่เมื่อนำผลวิจัยที่ได้ไปเทียบเคียงหรืออ้างอิงกลับแล้ว กลับพบว่า
มีความตรงภายนอกที่ต่ำ หรือมีผลการวิจัยที่เทียบไปยังสถาณการณ์เดี่ยวกันได้ต่ำ
งานวิจัยประเภทนี้ในปัจจุบันมีมากในลักษณะของการวิจัยเชิงปฏิบัติการณ์
เพราะเป็นงานวิจัยที่เน้นแก้ปัญหาเฉพาะกลุ่ม
4) งานวิจัยที่มีลักษณะความตรงภายในต่ำแต่ความตรงภายนอกสูง
งานวิจัยในลักษณะนี้เกิดขึ้นได้เช่นเดี่ยวกัน เพราะผลที่เกิดจากกับตัวแปรตามมีการเจือป่นจนเกิดความไม่น่าเชื่อถือ
เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับงานวิจัยอื่น ๆ กับพบว่า
สามารถเทียบเคียงผลการวิจัยได้อย่างชัดเจน
หากนักวิจัยมีความรู้ในระเบียบวิธีวิจัยแล้ว
จะไม่นิยมศึกษาต่อในการเทียบเคียงเพราะความตรงภายในต่ำบ่งชี้ถึงกระบวนการต่าง ๆ
ของการค้นคำตอบไม่ดีเท่าที่ควรทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น