The
Torrance and Pryor model
Torrance และ Pryor
ได้อธิบายรูปแบบการประเมินระหว่างเรียนว่าเป็น รากฐานของ ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์
กล่าวคือการเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการอาศัยความรู้จากสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ
เช่นในห้องเรียนที่เป็นแหล่งส่งเสริมความรู้มาผสมกับความรู้เดิม
จึงเกิดการเรียนรู้ (Torrance, 1993; Torrance & Pryor, 1998,
2001)
Torrance และ Pryor ได้อธิบายความแตกต่างของการประเมินผลในชั้นเรียนว่า มีอยู่ 2 ลักษณะคือ แบบแรก Convergent เป็นประเภทการประเมินผลที่เน้นการวัดใจความสำคัญของเนื้อหา
(Conceptual) ยึดการตอบถูกถึงผ่านซึ่งเน้นไปตามพฤติกรรมที่นิยมปฏิบัติกันมา
เน้นไปในการให้คุณค่าผู้ที่สอบผ่านและสอบไม่ผ่าน (Master and Non-master) แบบที่ 2 Divergent เป็นการประเมินผลที่อาศัยทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ คือ
แนวคิดทฤษฏีที่ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเองและเน้นไปที่ความเข้าใจอย่างแท้จริง
โดยครูต้องให้ความสำคัญกับแนวคิดหลัก (Conceptual)
และตรวจสอบความเข้าใจเพื่อไม่ให้นักเรียนมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนออกไป (Misconception) รูปแบบที่ใช้ในการประเมินผลระหว่างเรียนแบบ Divergent นั้นจะพบอยู่ 2 รูปแบบคือ IRE และ IRF และรูปแบบการประเมินแบบ
Divergent
ก็มีความเหมาะสมมากกว่าการประเมินแบบ Convergent
Torrance
และ Pryor ได้เสนอรูปแบบของการวัดผลระหว่างเรียนไว้
4 ขั้นตอน คือ
1) ขั้นเกริ่นนำ (task and quality criteria are
communicated) เป็นกิจกรรมการเรียนการ
สอน และคุณภาพของเกณฑ์ที่ใช้ในการสื่อสาร
หรือหมายถึงการสนทนากับนักเรียน โดยอาจเป็นการเริ่มเข้าสู่บทเรียน
คล้ายกับครูได้เตรียมกิจกรรมการเรียนการสอนและเกณฑ์ที่ชัดเจนในชันเรียน
และครูสามารถให้คำแนะนำกับผลงานของนักเรียนได้
2)
ขั้นรวบรวมข้อมูล (teachers
collect) เป็นขั้นที่ครูต้องรวบรวมข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจกับ
นักเรียน
อาจใช้ข้อมูลจากการถามตอบเป็นหลัก
หรืออาจเป็นการสนทนาเพื่อดูภูมิรู้ของนักเรียนก็ได้ (Metacognitive)
3)
ขั้นการสังเกต (observation
of students) เป็นขั้นที่ยากเพราะครูต้องสังเกตพฤติกรรม
ด้านต่าง
ๆ ของผู้เรียน โดยการสังเกตจะทำได้หลากหลายเวลา ทั้งขณะที่นักเรียนทำกิจกรรม
หรือหลักจากการครูถามคำถาม
โดยจุดประสงค์หลักของการสังเกตในขึ้นนี้เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนด้วยการสังเกต
4)
ขั้นการใช้ข้อมูลย้อนกลับไปยังนักเรียน
(feedback
to the students) โดยนักเรียนต้องมี
วิจารณญาณร่วมกันในการตัดสินผล
ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ยาก
และการใช้ข้อมูลย้อนกลับต้องเป็นการสะท้อนถึงผลงานและคุณภาพด้านต่างๆ
สรุปการใช้รูปแบบการประเมินผลระหว่างเรียนของ Torrance และ Pryor
นั้นมีหลักในการปฏิบัติอยู่ด้วยกัน 4 ขั้นตอนคือ เป็นขั้นเกริ่นนำโดยครูเองต้องเร้านักเรียนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้โดยผ่านกระบวนการสื่อสารหรือสนทนา
จากนั้นเป็นขั้นที่ครูต้องเก็บรวมรวมรวมถึงการสังเกตเพื่อเก็บข้อมูลโดยอาศัยประสบการณ์ในการจัดการชั้นเรียนเข้ามาช่วยเพื่อให้ได้รายละเอียดมากที่สุด
Torrance, H. (1993). Formative
assessment: Some theoretical problems and empirical
questions. Cambridge
Journal of Education, 23(3).
Torrance, H., & Pryor, J.
(1998). Investigating formative assessment: Teaching, learning,
and
assessment in the classroom. Philadelphia, PA: Open University Press.
Torrance, H., & Pryor, J.
(2001). Developing formative assessment in the classroom:
Using action
research to explore and modify theory. British Education Research
Journal,
27(5),
615-631.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น